#KatanyuWorldWide วันนี้จะพาน้อง ๆ ไปรู้จัก เครื่องคิดเลขสมัยโบราณของชาวโรมัน ชาวบาบิโลเนีย ชาวจีน ชาวพื้นเมืองอเมริกัน และอื่น ๆ กันค่ะ
ในยุคสมัยนี้ เรามีอุปกรณ์ที่ช่วยคำนวณตัวเลขอย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่จำเป็นตัวเขียนทดคำนวณให้ยุ่งยาก อุปกรณ์นั้นเรียกว่า “เครื่องคิดเลข” ไม่ว่าเครื่องคิดเลขจะอยู่ในรูปแบบที่ใช้คำนวณเพียงอย่างเดียวหรือรูปแบบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์รวมทั้งรูปแบบของแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน
นอกจากนี้ เมื่อเราซื้อของตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าก็จะเห็นว่ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้คำนวณยอดเงินโดยเพียงแค่อ่านบาร์โคดสินค้าเท่านั้น โดยเราไม่จำเป็นต้องกดเครื่องคิดเลขเลย แต่ก่อนที่โลกจะมีวิวัฒนาการการคำนวณอย่างในสมัยนี้ ในอดีตหรือแม้แต่บางพื้นที่ในยุคปัจจุบันก็ยังคงใช้เครื่องมือคำนวณที่ไม่ใช้เทคโนโลยีอยู่ สิ่งนั้นก็คือ “ลูกคิด” แต่ใครทราบบ้างว่าลูกคิดมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน
เครื่องคิดเลขสมัยบาบิโลน

การใช้วิธีคิดแบบลูกคิดครั้งแรกคาดว่ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองบาบิโลน เมืองรุ่งเรืองในยุคสมัยโบราณของเมโสโปเตเมีย เนื่องจากหลักฐานความเกี่ยวข้องที่ว่าชาวเมโสโปเตเมียสมัยอดีตนั้น มีการค้าขายแลกเปลี่ยนกับเมืองอื่น ๆ ดังนั้นจึงต้องมีเครื่องมือที่ช่วยคำนวณผลการค้าขายที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเพื่อการดำเนินการทางธุรกิจ ลูกคิดจึงกลายเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้ผู้คนได้ค้าขายแลกเปลี่ยนกับพื้นที่อื่นอย่างสะดวกมากขึ้น . นอกจากนี้ ลูกคิดยังอาจถูกนำไปใช้ในด้านสถาปัตยกรรมในการวัดขนาดของอาคารหรือวิหารต่าง ๆ และนั่นคงเป็นเหตุผลให้ผู้คนที่ต้องการหาวิธีการคำนวณง่าย ๆ ในการเพิ่มหรือลบจำนวนตัวเลขอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงได้คิดค้นลูกคิดรุ่นแรกขึ้นมา
เครื่องคิดเลขในจักรวรรดิโรมัน

วิธีการคำนวณของสมัยโรมโบราณ เช่น ประเทศกรีซ คำนวณโดยวิธีการนับบนโต๊ะหิน โดยใช้ก้อนกรวดเม็ดเล็ก ๆ ในการนับ ต่อมาในยุคกลางได้มีการผลิตเหรียญเบี้ยออกมาและเกิดการสร้างสัญลักษณ์เส้นที่ใช้นับ 1, 5, 10 ฯลฯ ขึ้นมา กลายเป็นสัญลักษณ์เลขโรมันที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ซึ่งวิธีการนับเช่นนี้ดำเนินต่อไปจนถึงยุคโรมันตอนปลายและในยุโรปยุคกลาง ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เนื่องจากสมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่สองได้นำลูกคิดเข้ามาและกลายเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 11 ลูกคิดนี้ใช้เม็ดลูกคิดกับสายไฟซึ่งแตกต่างจากกระดานนับโรมันแบบดั้งเดิม จึงสามารถคิดด้วยลูกคิดได้เร็วกว่า
เครื่องคิดเลขในอียิปต์โบราณ
เฮอรอโดทัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกผู้คอยบันทึกเหตุการณ์สงครามเปอร์เซียได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องคิดเลขว่ามีการใช้ก้อนกรวดมาเรียงเป็นแถว
เครื่องคิดเลขในประเทศจีน

ลูกคิดของจีนหรือที่เรียกกันว่า “ซ่วนผาน” (算盤) โดยทั่วไปแล้วมีความสูง 20 เซนติเมตร และมีความกว้างหลากหลายขึ้นอยู่กับการปฏิบัติงาน ต้นแบบลูกคิดของจีนปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีเม็ดลูกคิดเป็นทรงรี ต่อมาในราชวงศ์ซ่งพบว่าใช้ลูกคิดแบบ 4:1 หรือที่รู้จักในชื่อลูกคิดแบบญี่ปุ่น และต่อมาในช่วงราชวงศ์หมิงได้ปรากฏการใช้ลูกคิดรูปแบบ 1:5 และในช่วงปลายราชวงศ์หมิงได้ปรากฏลูกคิดแบบ 2:5
การใช้ลูกคิดของจีนสามารถใช้สำหรับฟังก์ชั่นอื่นที่ไม่ใช่การนับซึ่งแตกต่างจากบอร์ดนับง่าย ๆ ที่ใช้ในโรงเรียนประถม เช่น เทคนิคการใช้ลูกคิดจีนด้านการคูณ การหาร การบวก การลบ การหารากที่สองและสามด้วยความเร็วสูง ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนสอนนักเรียนเกี่ยวกับวิธีการใช้งานลูกคิดจีน
เครื่องคิดเลขในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับประเทศญี่ปุ่นลูกคิดเรียกว่า “โซโรบัง” (算盤) ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีนในช่วงศตวรรษที่ 14 โดยถูกนำมาใช้ในหมู่ชนชั้นแรงงานระยะเวลาประมาณหนึ่งศตวรรษหรือมากกว่าก่อนที่ชนชั้นปกครองจะเริ่มนำมาใช้ โดยเป็นผลมาจากระบบชนชั้นที่ไม่อนุญาตให้นำเอาอุปกรณ์ที่ใช้โดยชนชั้นต่ำกว่านำมาใช้โดยชนชั้นที่สูงกว่า ลูกคิดแบบ 1:4 ซึ่งนิยมใช้ในการคำนวณเลขทศนิยมปรากฏว่ามีอยู่ในช่วงประมาณปี 1930 และเริ่มนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ลูกคิดแบบ 1:4 ถูกเรียกได้อีกชื่อว่าเป็น “ลูกคิดแบบญี่ปุ่น” นอกจากนั้นยังเริ่มค้นพบการใช้เม็ดลูกคิดรูปทรงเหลี่ยมคล้ายเพชรซึ่งแตกต่างจากทรงมนที่นิยมในประเทศจีนอีกด้วย
เครื่องคิดเลขในประเทศเกาหลี
ลูกคิดได้เดินทางจากประเทศจีนเดินทางเข้ามายังประเทศเกาหลีราวปี 1400 ชาวเกาหลีเรียกมันว่า jupan (주판), supan (수판) หรือ jusan (주산)
เครื่องคิดเลขของชาวอเมริกัน

ถูกเรียกว่า Nepohualtzintzin เริ่มใช้ในจักรวรรดิแอซเท็ก ลักษณะจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา โดยฝั่งหนึ่งมี 4 เม็ด มีค่า 1,2,3,4 อีกฝั่งมี 3 เม็ด มีค่า 5,10,15 ในวัฒนธรรมของชาวมายาถูกนำมาทำเป็นกำไล
การเก็บข้อมูลตัวเลขของชาวอินคา “กีปู” ( Quipu) เป็นวิธีการเก็บบันทึกข้อมูลตัวเลขของวัฒนธรรมโบราณในแถบเทือกเขาแอนดีส กีปูจะประกอบด้วยเชือกหลักหนึ่งเส้นที่ถูกผูกไว้ด้วยเชือกหลากสีที่มีปมลักษณะแตกต่างกัน ตัวเลขจะถูกบันทึกเป็นเลขฐานสิบ คำว่า “กีปู” ในภาษาเกชัวแปลว่า “ปม” ชาวอินคาไม่มีตัวอักษรและตัวเลข ดังนั้นจึงใช้เชือกหลากสีและการมัดปมเชือกเพื่อแสดงจำนวน สำหรับการนับตัวเลขจะใช้เลขฐานสิบเช่นกัน ตัวอย่าง หากเชือกหลักหน่วย มี 6 ปม เชือกหลักสิบมี 6 ปม ก็หมายถึงจำนวน 66
เครื่องคิดเลขในอาณาจักรอินเดีย

ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา คัมภีร์อภิธรรมโกษะการิกกา (Abhidharmakośakārikā) ของพระวสุพันธุได้กล่าวถึง “การวางไส้ตะเกียงบนตัวเลข 1 หมายถึงมีค่าเป็น 1 ในขณะที่วางไส้ตะเกียงบนเลข 100 หมายถึงร้อย และหากวางไส้ตะเกียงบนเลข 1,000 หมายถึงหนึ่งพัน” ซึ่งประโยคข้างต้นไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นข้อสันนิษฐานที่เชื่อถือได้ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 5 เสมียนชาวอินเดียหาวิธีใหม่ในการบันทึกเนื้อหาของลูกคิด ซึ่งตำราฮินดูใช้คำว่า śūnya (ศูนย์) เพื่อระบุคอลัมน์ว่างบนลูกคิด
เครื่องคิดเลขในปัจจุบัน

เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์มักเรียกโดยย่อว่า “เครื่องคิดเลข หรือ “เครื่องคำนวณ” คือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับดำเนินการทางเลขคณิตพื้นฐานหรือซับซ้อน มักมีขนาดเล็ก พกพาได้ และราคาไม่แพง. เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์แบบโซลิดสเตตเครื่องแรกผลิตขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 ซึ่งสร้างโดยใช้หลักการของเครื่องมือคำนวณในประวัติศาสตร์ อย่างเช่นลูกคิดที่ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และเครื่องคิดเลขเชิงกลที่ประดิษฐ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้น เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์มีพัฒนาการควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์แอนะล็อกในสมัยนั้น
ทั้งหมดนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและวิวัฒนาการจากยุคสู่ยุค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถึงเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาไปมากขนาดไหน สิ่งที่ถูกคิดค้นหรือหลักการในอดีตก็ยังผนวกเข้ากับยุคปัจจุบันได้ ดังนั้นการเรียนรู้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์ย่อมเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งต่อไปในอนาคต
ข้อมูลจาก : RealMetro
#เครื่องคิดเลข#เครื่องคิดเลขชาติต่างๆ#วิวัฒนาการเครื่องคิดเลข#ลูกคิด#ซ่วนผาน#โซโรบัง#Nepohualtzintzin#กีปู#Quipu#เครื่องคำนวณ#วิวัฒนาการ#เทคโนโลยี#ประวัติศาสตร์#นักเรียน#เยาวชน#การศึกษา#Education#KatanyuWorldWide#เรื่องราวรอบโลก#เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย#Katanyudemy#กตัญญูเดมี่#กตัญญู#พัฒนาการศึกษาไทย



ไม่อยากพลาดข่าวสารด้านการศึกษาดี ๆ จากทุกมุมโลก อย่าลืมติดตาม Katanyudemy กันนะคะ
.
ติดต่อลงข่าวและประชาสัมพันธ์เรื่องราวและข่าวสารด้านการศึกษากับ Katanyudemy สามารถ inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมคลิก