#KatanyuToday วันตรุษจีน 2565 ตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน (คล้ายกับวันสงกรานต์ของไทย) ชาวจีนทุกคนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก มีการหยุดงานเป็นเวลายาว โรงเรียนสถาบันการศึกษาปิดเทอม (ปิดเรียนฤดูหนาว) ในช่วงนี้เหลือเพียงแต่บางอาชีพที่ต้องทำหน้าที่พิเศษไม่สามารถหยุดงานได้ ในวันตรุษจีนหน่วยงานห้างร้านต่างจะหยุดงานเป็นเวลา 3-4 วัน เพื่อตระเตรียมจัดงานปีใหม่นี้
มีการทำความสะอาดบ้านเรือนผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสดใส ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต่างเต็มไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็ก ๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพรในโอกาสมงคล ในตลาดคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ที่มาซื้อปลา เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ ฯลฯ ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุข เด็ก ๆ สวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาด ขนมหวาน เล่นพลุประทัด (ต้องระวังอันตรายและมีผู้ใหญ่ดูแล) อย่างรื่นเริง .
ปฏิทินวันตรุษจีน พ.ศ. 2565 หรือ ค.ศ. 2022วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นวันตรุษจีน
1 คืนก่อนวันปีใหม่จีน คือ วันสุดท้ายของปีนั่นเอง เป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ช่วงมื้อค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวจะนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหารชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ในช่วงเวลานี้ทุกบ้านจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ก็จะปั้นลูกอี๋ (ขนมที่ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ต้มน้ำตาล) ทำน้ำเชื่อม ทำไปชิมไป รับประทานไปครึกครื้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนจะตื่นแต่เช้าเยี่ยมเพื่อนบ้านเพื่อนฝูงเพื่ออวยพรปีใหม่
..
ประวัติวันตรุษจีน หรือ ปีใหม่จีนวันตรุษจีน นั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี พิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีนนั้น มีมานานกว่าศตวรรษ (100 ปี) จริง ๆ แล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร
.
ตรุษจีนนั้นเป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวันคริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญและสิ่งต่าง ๆ เพื่อประดับบ้านเรือน เตรียมอาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูกทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่าง หน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึง การกวาดเอาโชคร้ายออกไป ประตูหน้าต่างมีการทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสียอดนิยม ประตูหน้าต่างจะถูกประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่าง เช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืน
.
ที่มาของวันตรุษจีนเกิดจากการจัดขึ้น เพื่อตั้งใจที่จะฉลองฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนนั้น ประเทศจีนปกคลุมไปด้วยหิมะ จึงไม่สามารถทำการเกษตรได้ เมื่อเข้าถึงฤดูใบไม้ผลิจึงจะสามารถเพาะปลูกพืนผักได้ตามปกติ ชาวจีนจึงกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิตในแต่ละปีเป็นวันสำคัญที่เรียกว่า “วันตรุษจีน”
.
อาหารวันตรุษจีน ประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่ง อาทิ
ขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่าง ๆ กัน
อาหารอันโอชะอย่างเช่น กุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรืองและความสุข
เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี
สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี
จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาหร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้
และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึง บรรพชนอวยพร.
เสื้อผ้าวันตรุษจีน การใส่เสื้อผ้าสีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคล เป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
.
อาหารไหว้เจ้าตรุษจีน ในวันฉลองตรุษจีน อาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันอื่น ๆ ในปี อาหารชนิดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ในวันตรุษ ครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่าง ๆ มีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน
เม็ดบัว – หมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
เกาลัด – หมายถึง เงิน
สาหร่ายดำ – คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวยในภาษาจีน
เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง – คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวยและความสุขในภาษาจีน
หน่อไม้ – คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้ เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้ายสำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
ปลาทั้งตัว – เป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกันและความอุดมสมบรูณ์
ไก่ – สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หาง และเท้าอยู่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์
เส้นหมี่ – ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึง ชีวิตที่ยืนยาว
* ในทางตอนใต้ของจีน อาหารที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุด ได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ส่วนทางเหนือ ได้แก่ หมั่นโถและติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม
* อาหารจำนวนมากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน.
ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายในภาษาจีนก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีเก่า ๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
1. หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปีดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฏิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
2. การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผม เพราะนั้นจะหมายถึง เราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้อั่งเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วยธนบัตรใหม่เพื่อความโชคดี
3. วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆสำหรับคนที่เชื่อโชคลางมาก ๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแสเพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อความเป็นสิริมงคล
4. บุคคลแรกที่พบบุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่นถือเป็นโชคดี
5. การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้ายมาก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยหรือปกติ ก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
6. ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะชาวจีนเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี
ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมา แต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือและปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีนตระหนักดีว่า การปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อน เป็นการแสดงถึงความเป็นครอบครัวและเอกลักษณ์ของตน.
ที่มา : สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง.#ตรุษจีน#วันตรุษจีน#วันตรุษจีน2565#เทศกาลของชาวจีน#ธรรมเนียมและประเพณีจีน#นักเรียน#นักศึกษา#เยาวชน#KatanyuToday#Katanyudemy#กตัญญูเดมี่#กตัญญู#การศึกษา#Education#เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย#พัฒนาการศึกษาไทย .



ไม่อยากพลาดข่าวสารด้านการศึกษาดี ๆ จากทุกมุมโลก รวมถึงข่าวสารการสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่าลืมติดตาม Katanyudemy กันนะคะ
.
ติดต่อลงข่าวและประชาสัมพันธ์เรื่องราวและข่าวสารด้านการศึกษากับ Katanyudemy สามารถ inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมคลิก