Katanyudemy

katanyudemy

ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของจีน Artificial Intelligence (AI)

🇨🇳 มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนเปิดสถาบัน AI ให้ศึกษาถึงการพัฒนาของจีน

🌐 จากประเทศที่ล้าหลังสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก อะไรที่ทำให้จีนพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและยาวไกล ปัจจัยที่ทำให้จีนกลายเป็น Silicon Valley ของเอเชีย ประเทศไทยกับการเติบโตของจีนจะได้ประโยชน์อย่างไรและต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร ก้าวต่อไปของจีนที่ต้องจับตามอง

🌐 เพราะจำนวนประชากรของประเทศจีนทำให้คนจีนต้องแข่งขัน (Competition) ตั้งแต่เกิด คนจีนจึงกระตือรือร้นในการแข่งขันตลอดเวลา เห็นได้จากแอปพลิเคชั่นของจีนในยุคแรกจะเป็นการก๊อปปี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ยุคที่สองจีนจึงมีการพัฒนาแอปฯ เพื่อสร้างความแตกต่าง จากนั้นในยุคที่สามก็พัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นมาโดยไม่ต้องก๊อปปี้ใครและในยุคที่สี่คือการที่หลายประเทศหันมาก๊อปปี้แอปฯ จากจีน

🌐 ที่สำคัญจีนยังกล้าทดลอง (Experimentation) เพราะตั้งแต่ที่เติ้งเสี่ยวผิงตั้งเมืองเสิ่นเจิ้นเป็นเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษก็ล้มเหลวมาโดยตลอด แต่จีนใช้หลักเรื่องไหนล้มเหลวรีบแก้ เรื่องไหนสำเร็จรีบขยาย ส่งผลให้บริษัทจีนใช้หลักการนี้เช่นกัน ยิ่งเมื่อมี AI เข้ามาเกี่ยวข้องการนำข้อมูล (DATA) มาทดลองให้เร็ว ทำให้ AI มีความฉลาดมากขึ้นและเร็วขึ้น

🌐 เมื่อปี 2018 กระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีน ประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดันจีนสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยมีเป้าหมายให้มหาวิทยาลัยของจีนเป็นผู้นำความรู้ของเทคโนโลยี AI ภายในปี 2030แผนดังกล่าวทำให้มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนตื่นตัวและเริ่มต้นตั้งภาคการเรียนการสอนรวมถึงสถาบันวิจัยด้าน AI โดยเฉพาะโดยตัวอย่างการสนับสนุนที่เกิดขึ้น มีดังนี้

🌐 เปิด 2 สาขาวิชาด้าน AI เมื่อปี 2018 มหาวิทยาลัยนานจิงได้เปิดตัว 2 สาขาวิชาใหม่ ได้แก่ Machine Learning and Data Mining และ Intelligence System and Application ซึ่ง Zhou Zhihua อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานจิง กล่าวว่า นับเป็นความจำเป็นอย่างมากที่มหาวิทยาลัยต้องออกหลักสูตรการเรียนการสอนด้าน AI ใหม่ เนื่องจากหลักสูตรในตอนนี้กว้างเกินกว่าจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจเชิงลึกหรือเห็นภาพการใช้งาน AI ในอุตสาหกรรมต่างๆจับมือกับภาคธุรกิจเพื่อ Use Case ที่เกิดขึ้นจริง นอกจากเปิดหลักสูตรแล้ว มหาวิทยาลัยนานจิงยังร่วมมือกับเจ้าของ E-Commerce Platform รายใหญ่อย่าง JD.com เพื่อให้ผู้เรียนได้ทดลองพัฒนา AI ตามโจทย์และความต้องการที่เกิดขึ้นจริงในภาคธุรกิจ

🌐 AI+X จับทุกวิชามารวมกับ AI อีกสถาบันหนึ่งที่น่าสนใจคือมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงซึ่งนำเสนอแนวคิดหลักสูตร AI+X ซึ่งคือการเอา AI ไปผนวกรวมกับวิชาเอกที่คาดว่าจะช่วยต่อยอดการเรียนรู้ด้าน AI ได้ โดยคาดว่าจะช่วยให้มีวิชาเอกเกี่ยวกับ AI เพิ่มขึ้นเป็น 100 รายวิชาภายในปี 2020

หากแยกย่อยลงไปจากจำนวนมหาวิทยาลัยจีนทั้งหมด เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ 118 แห่ง

🌐 มหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ 10 แห่ง ติด 50 อันดับแรก ในด้านชื่อเสียงด้านวิชาการ (Academic reputation) จากการสำรวจนักวิชาการชั้นนำทั่วโลก 94,672 คน

🌐 มหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ 25 แห่ง ติด 50 อันดับแรกในด้านจำนวนการอ้างอิงต่อบทความ (Citations per paper) ซึ่งพิจารณาจากอิทธิพลของงานวิจัยที่ผลิต

🌐 ไล่เรียงข่าวความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ของจีน โดยเฉพาะด้าน Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ที่จีนประกาศในปี2017 ว่าจะเป็น ‘ผู้นำด้าน AI ภายในปี 2030’ ก็ย้อนคิดว่า ภาครัฐกับองค์กรธุรกิจอัดฉีดทุนทรัพย์ เปย์ทุนทรัพย์เพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) แบบไม่ยอมแพ้ชาติใดในโลก ‘สถาบันการศึกษา’ ในจีนก็ต้องมีองค์ความรู้หรือกูรูในระดับแอดวานซ์ด้วยน่ะสิ จึงจะสามารถถ่ายทอดวิชาให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะด้านเทค และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนก้าวล้ำยิ่งขึ้น

📌  ที่มา : https://edubrights.com

#ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของจีน#แนวโน้มการศึกษา#ระบบการเรียนรู้#การศึกษา#การสอบ#การเรียนรู้#นักเรียน#นักศึกษา#เยาวชน#Education#การศึกษา#KTD#KTDTech#เทคโนโลยี#ไอที#นวัตกรรม#ข่าวสาร#ข่าวสารไอที#เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย#Katanyudemy#กตัญญูเดมี่#กตัญญู#พัฒนาการศึกษาไทย

📣 ไม่อยากพลาดข่าวสารและเรื่องราวน่ารู้ด้านการศึกษาดี ๆ จากทุกมุมโลก อย่าลืมติดตาม Katanyudemy กันนะคะ 😀

☎️ ติดต่อลงข่าวและประชาสัมพันธ์สามารถ inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ

🙏 สนับสนุนโดย cutepress ORIENTAL PRINCESS และกตัญญู www.katanyu77.com

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก